วันอังคารที่ 6 สิงหาคม พ.ศ. 2556

เวลากับความรู้สึก

1


2


3


เวลาของเราถูกปล่อยผ่านไปวินาทีแล้ววินาทีเล่า บางคนใช้มันเพื่อฉกฉวยความสุข แต่บ้างก้เฝ้าดูมันผ่านไปช้าๆโดยไม่คิดจะทำอะไร...

เวลาไม่เคยรอให้ใครนำหน้า,, คำพูดนี้อาจฟังดูเข้าใจยาก แต่มันก้ซ่อนความจริงอะไรบางอย่างที่น่าขนลุก -- เวลาเปนเพียงสิ่งเดียวที่ไม่สามารถไหลย้อนกลับได้ และนี่คือสิ่งที่ก้าวไวกว่าทุกแข้งขาของสิ่งมีชีวิตทุกชนิด...

คนเราชอบหาเหตุผลสนับสนุนตัวเราเองด้วยข้อจำกัดทางกาลเวลา,, เรานับถือคนที่แก่กว่าเพราะเขาลืมตา 'ก่อน' เรา, นายจ้างบางคนเลือกรับลูกน้องเพราะ 'แก่' ประสบการณ์, การศึกษาบังคับให้ต้องเรียนรู้ภายในกรอบเวลาที่กำหนด และอีกสารพัดที่เราพอจะนึกออก,, เรากำลังมองข้ามอะไรบางอย่างไปหรือไม่?

มันเปนเรื่องจริงที่กาลเวลาก่อให้เกิดความชำนาญและอะไรต่อมิอะไรอีกหลายอย่าง แต่มันก้ไม่ใช่กับทั้งหมด...

คนบางคนสามารถเรียนรู้ เข้าใจ และใช้ชีวิตได้โดยไม่ต้องพึ่งพาการล่วงเลยของกาลเวลา,, เด็กน้อยบางคนสามารถอ่านออกเขียนได้ตั้งแต่ก่อนเข้าวัยเรียน ใครบางคนสามารถทำความเข้าใจกับอะไรบางอย่างได้โดยไม่ต้องใช้เวลาเปนตัวแปร ฯลฯ สิ่งเหล่านี้เปนหนึ่งข้อโต้แย้งว่าเวลาไม่สามารถตอบโจทย์อะไรได้ทั้งหมด...

เช่นเดียวกันกับเรื่องความรู้สึก,,

เรามักจะอ้างเวลามาเปนตัวชี้วัดการจะคบใครหรือรู้จักใครสักคนนึง,, รู้จักกันได้ไม่เท่าไหร่จะเปนแฟนกันแล้ว?, มาเร็วระวังไปเร็วนะ..., จะคบจะหากันก้ดูกันนานๆ -- เท่าที่ผมพอจะนึกออกก้ประมาณนี้ และแน่นอนมาถึงบรรทัดนี้หลายคนคงนึกแย้งผมอยู่ในใจ...

มายาคติเรื่องเวลากับความรู้สึกนี่เปนสิ่งที่ปลูกฝังกันมาเนิ่นนาน คนเราจะเชื่อว่าใครสักคนจะใช่และจริงใจกับเราก้ต่อเมื่อเค้าได้พิสูจน์ตัวเองกับเรามาเปน 'เวลา' พอสมควร,, สิ่งเหล่าอาจไม่ใช่เรื่องผิดปกติเสียทีเดียว แต่, ถ้าเกิดเหตุการณ์อะไรบางอย่างขึ้นมาไม่คาดฝัน ทุกสิ่งจะดำเนินต่อไปอย่างไร?

ยกตัวอย่างที่น่าจะพบเห็นได้ไม่ยาก คู่รักที่ลงทุนลงเวลากับการจีบกันไปมากโข ก่อนที่จะมาตกลงปลงใจคบหากัน แต่ไปได้ไม่เท่าไหร่ก้เลิกกันด้วยเหตุผลอะไรก้สุดแล้วแต่ และที่สำคัญยังไม่ทันที่ดูแลกันและกันเท่าที่มันจะคุ้มกับเวลาเลย... คำถามคือเวลาที่เค้าใช้ศึกษากัน(จีบกัน)มันพิสูจน์อะไรบางอย่างจริงหรือ?

การใช้เวลาศึกษาดูใจเปนเครื่องมือหนึ่งในการเฟ้นหาความมั่นคงในชีวิตมนุษย์,, มนุษย์เราเปนสิ่งมีชีวิตรูปแบบที่ต้องการความมั่นคงเหนือสิ่งอื่นใด ไม่เว้นแม้กระทั่งเรื่องความรู้สึก...

มุมมองของผมต่อความมั่นคงนั้นคือเรื่องตลกที่ขำไม่ค่อยจะออก,, ตลกที่คนเราใช้ชีวิตทั้งชีวิตตามหามัน แต่สุดท้ายกลับได้ครอบครองมันเพียงช่วงเวลาสั้นๆ สำหรับผมความมั่นคงไม่เคยมีอยู่จริง...

คนเราเกิดมาไม่พ้นต้องจบต้องจากต้องพลัดพรากไม่ด้วยกระบวนการใดก้กระบวนการหนึ่ง ความมั่นคงเหล่านั้นก้ไม่ต่างอะไรกับยาหอมที่โปรยปรายยามที่หัวใจต้องการสายฝนหยดริน,, เราชอบหลอกตัวเองว่าใครสักคนจะอยู่กับเราตลอดไป แม้กายพรากแต่ความทรงจำไม่จากไปไหน... แต่ทำไมเราถึงไม่ใช้ทุกช่วงเวลาที่มีอยู่ ทุกวินาทีที่ล้ำค่านี้ดื่มด่ำกับมันล่ะครับ?

การทำตามสิ่งที่หัวใจดวงน้อยๆของคุณเพรียกหาก้ไม่ได้หมายความว่ามันจะผิดซะหน่อย...
และนั่นคือความคิดของผม.